มีพี่ท่านนึงแบกปืนกระบอกนี้มาให้ผมดูครับ
บอกว่าน่าจะเก่ามาก แต่เจ้าของนำไปลอกสนิม ทำรมดำใหม่ เปลี่ยนด้ามใหม่มา ทำให้ดูดีขึ้น แต่ก็หมดความขลังไปแยะ ลวดลายที่เคยแกะไว้อย่างงดงามเจือจางลงไปมาก ตรงแก้มยังพอเห็นตัวหนังสือรางๆ อ่านได้ว่า Holland & Holland
พี่ท่านนั้นเล่าว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้รู้ท่านนึงตรวจสอบรายละเอียดให้แล้ว ได้ความว่า เป็นปืนลูกซองแบบ Paradox คือ ช่วงปลายลำกล้องระยะที่เป็นโช้ค จะทำเกลียวไว้ สามารถยิงลูกโดดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะได้
เมื่อค้นข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบว่า เป็นลิขสิทธิ์ของ Holland & Holland จดเอาไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1885 และเริ่มทำออกขายในปีถัดมา หลังจากขายไปได้ 1,500 กระบอก จนถึงปี ค.ศ.1920 ก็หยุดผลิต (ก่อนจะเริ่มทำขายอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ.2010)
ผมจึงรับอาสาติดต่อไปยังร้าน Holland & Holland ที่กรุงลอนดอน เพื่อขอประวัติและรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ประจำร้านก็ใจดี กุลีกุจอเปิดคอมฯค้นหาประวัติให้เดี๋ยวนั้น ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็พิมพ์รายละเอียดที่มีบันทึกไว้ทั้งหมดส่งมาให้
ความตื่นเต้นจึงบังเกิดขึ้นครับ เมื่อพบว่าปืนกระบอกนี้ถูกทำขึ้นในปี ค.ศ.1886 นั่นคือ นอกจากจะอายุ 131 ปีแล้ว ยังเป็นกระบอกแรกๆของ 1,500 กระบอก ที่ทำออกมาขายในช่วง 34 ปีนั้นด้วยชื่อผู้สั่งปืนกระบอกนี้ ถูกบันทึกไว้เพียงสั้นๆว่า Chuang ทำให้ผมเชื่อว่า ต้องเป็นชาวไทยแน่นอนครับ หากไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ ก็ต้องเป็นขุนนางระดับสูงของกรุงสยามในยุคนั้น
นอกจากนี้ ค.ศ.1886 ยังเป็นปีที่ก่อตั้งกรมป่าไม้ขึ้นในกรุงสยามด้วยครับ ทำให้สงสัยว่า อาจมีความเกี่ยวข้องกับการสั่งปืนกระบอกนี้เข้ามาหรือไม่
วันที่นำปืนมาให้ดูครั้งแรก ที่สนามสามโคก พี่ท่านนั้นพกกระสุนลูกซองขนาด 16 มาด้วย เชื้อเชิญผมให้ยิงดูหน่อย
ผมลองตรวจปืนเบื้องต้น พบว่าภายในลำกล้องยังพอดูได้ กลไกบริหารได้ครบดูเรียบร้อยดี แต่เริ่มหลวมคลอนไปตามอายุ
พอพลิกหางเหยี่ยวปุ๊บ ปืนก็เปิดได้เองปั๊บ แบบ self-opening เลยครับ
ผมเลยบอกพี่เขาไปว่า ปืนเก่าและหลวมขนาดนี้ อย่าเอามายิงเลยครับ เก็บรักษาไว้ตามสภาพดีกว่า
แต่พี่ท่านเป็นสาย hard core ตอบว่า ไม่เป็นไร งั้นผมยิงเอง อุตส่าห์เอาลูกมาด้วยแล้ว ลูกขนาด 16 นี่หาไม่ได้ง่ายๆนะ
ว่าแล้วพี่ท่านก็ยิงจริงๆ ผลปรากฎว่า ยิงออกตามปกติทั้งสองลำกล้อง ทุกอย่างทำงานเรียบร้อยดี ยิงซ้ำไปอีก 4 นัด ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สรุปได้ว่า ปืนเขาดีและทนทานสมยี่ห้อจริงนะครับ ผมเองก็นับว่าโชคดี ที่มีโอกาสได้สัมผัส และช่วยสอบหาประวัติที่น่าสนใจมาได้ส่วนหนึ่ง
ไหนๆก็ติดต่อไปจนถึงร้านแล้ว ต้องถามถึง .600 ไนโตรฯ เสียหน่อย พบว่า มีวางโชว์อยู่ในตู้กระบอกนึง
ท่านใดสนใจอยากทราบว่า ตัวล่าสุดหน้าตาเป็นอย่างไร ขายกันที่ราคาเท่าไร โปรดเพ่งทัศนากันได้ตามอัธยาศัย จากรูปที่ผมลงไว้ด้วยนี้ ได้เลยนะครับ
มิถุนายน 2560
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น